ยุงเยอะแบบนี้ ระวังโรคพยาธิหนอนหัวใจ !
“ยุง” ตัวการสำคัญที่เป็นพาหะของโรคพยาธิหนอนหัวใจในน้องหมา โดยเฉพาะในฤดูฝนที่ยุงเยอะแบบนี้ ยิ่งทำให้น้องหมามีโอกาสป่วยด้วยโรคพยาธิหนอนหัวใจมากกว่าปกติ 😱
ทำไมฤดูฝนจึงมีโอกาสพบยุงเยอะกว่าฤดูอื่น ๆ และการโดนยุงกัดเพียงครั้งเดียวก็ทำให้น้องหมาเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจได้แล้วจริงหรือ ? ไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลย ! 😊
🦟 ทำไมหน้าฝนจึงยุงเยอะ ?
เพราะ ยุง คือแมลงที่เติบโตมาจากตัวโม่ง หรือลูกน้ำซึ่งอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำขังในสิ่งแวดล้อม เมื่อฝนตก (โดยเฉพาะในฤดูฝนที่ฝนตกบ่อยมากกว่าฤดูอื่น ๆ) จึงทำให้แหล่งน้ำขังตามพื้นที่ต่าง ๆ เกิดขึ้นได้ง่าย และมากกว่าปกติ นอกจากนี้ ไข่ของยุงยังมีความทนทานในสิ่งแวดล้อมสูง ถึงแม้ว่ายุงจะไข่ทิ้งไว้ตามพื้นดินที่แห้งกรัง แต่เมื่อสัมผัสกับน้ำฝน ไข่เหล่านี้ก็พร้อมที่จะฟักตัวออกมาเป็นลูกน้ำได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ส่งผลให้ฤดูฝน เป็นฤดูที่มีโอกาสพบยุงได้ง่าย และบ่อยมากกว่าฤดูอื่น ๆ นั่นเอง
🦟 ยุงเป็นพาหะของพยาธิหนอนหัวใจได้อย่างไร ?
พยาธิหนอนหัวใจระยะตัวอ่อน จะไหลเวียนปะปนอยู่ภายในกระแสเลือดในร่างกายของน้องหมาที่ป่วยด้วยโรคพยาธิหนอนหัวใจ เมื่อยุงกัดและดูดเลือด ยุงจะรับตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจซึ่งมีขนาดเล็กมากเข้าสู่ร่างกาย และเมื่อยุงที่เป็นพาหะนี้บินไปดูดเลือดน้องหมาตัวอื่น ๆ ตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจก็จะเคลื่อนที่จากยุงเข้าสู่ร่างกายของน้องหมาตัวนั้น ๆ ผ่านทางปากที่กำลังดูดเลือด และเติบโตจนก่อให้เกิดโรคพยาธิหนอนหัวใจตามมานั่นเอง
🦟 โดนยุงกัดแค่ครั้งเดียวก็เป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจได้ จริงหรือ ?
จริง เพราะตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจมีขนาดเล็กมาก ด้วยการดูดเลือดเพียงครั้งเดียว ยุงก็จะได้รับตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจจำนวนมากเข้าสู่ร่างกาย และถึงแม้ว่าน้องหมาจะโดนยุงกัดเพียงหนึ่งครั้ง แต่จำนวนตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจที่เข้าสู่ร่างกายน้องหมาไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเดียว แถมยุงยังมีขนาดเล็กมาก ในบางครั้งที่โดนยุงกัดน้องหมาอาจไม่ทันได้รู้สึกตัว ยุงจึงมีเวลาดูดเลือดน้องหมาได้นานมากขึ้น ตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจจึงเข้าสู่ร่างกายของน้องหมาได้มากขึ้นนั่นเอง เรียกได้ว่าถึงแม้จะโดนยุงกัดเพียงแค่ครั้งเดียว แต่นั่นก็เป็นโอกาสอันมากพอที่ตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจเหล่านั้นจะเข้าสู่ร่างกายน้องหมาได้แล้วล่ะ
หน้าฝน ยุงเยอะแบบนี้ อย่าลืมป้องกันน้องหมาจากโรคพยาธิหนอนหัวใจ ด้วยการป้องกันน้องหมาจากยุงร้าย และเสริมเกราะป้องกันพยาธิหนอนหัวใจด้วยโปรแกรมปกป้องที่สัตวแพทย์แนะนำ 🧡
รักน้องหมา อย่าปล่อยให้น้องหมาต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคพยาธิหนอนหัวใจ เสริมเกราะป้องกันให้น้อง ๆ ตั้งแต่วันนี้ !
🐶 ดูแลน้องหมาด้วยโปรแกรมป้องกันปรสิต ปลอดภัยทั้งภายนอกและภายใน สำหรับสุนัขที่สัตวแพทย์แนะนำเป็นประจำทุกเดือน
🎯 Simple Protection Triple Action ผสาน 3 พลัง อีกขั้นของการปกป้อง ดูแลง่าย ปลอดภัย อุ่นใจยกบ้าน 
ดูแลป้องกันปรสิตร้ายทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ ปรสิตภายนอก (หมัด เห็บ ไร) พยาธิหนอนหัวใจ-พยาธิปอด และพยาธิทางเดินอาหาร
#SimpleProtection #TripleAction #ผสาน3พลัง #อีกขั้นของการปกป้อง #ดูแลง่าย #ปลอดภัย #อุ่นใจยกบ้าน
Category: ไลฟ์สไตล์
- 

เตือนภัยหน้าฝน !
ยุงเยอะแบบนี้ ระวังโรคพยาธิหนอนหัวใจ ! “ยุง” ตัวการสำคัญที่เป็นพาหะของโรคพยาธิหนอนหัวใจในน้องหมา โดยเฉพาะในฤดูฝนที่ยุงเยอะแบบนี้ ยิ่งทำให้น้องหมามีโอกาสป่วยด้วยโรคพยาธิหนอนหัวใจมากกว่าปกติ 😱ทำไมฤดูฝนจึงมีโอกาสพบยุงเยอะกว่าฤดูอื่น ๆ และการโดนยุงกัดเพียงครั้งเดียวก็ทำให้น้องหมาเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจได้แล้วจริงหรือ ? ไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลย ! 😊 🦟 ทำไมหน้าฝนจึงยุงเยอะ ?เพราะ ยุง คือแมลงที่เติบโตมาจากตัวโม่ง หรือลูกน้ำซึ่งอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำขังในสิ่งแวดล้อม เมื่อฝนตก (โดยเฉพาะในฤดูฝนที่ฝนตกบ่อยมากกว่าฤดูอื่น ๆ) จึงทำให้แหล่งน้ำขังตามพื้นที่ต่าง ๆ เกิดขึ้นได้ง่าย และมากกว่าปกติ นอกจากนี้ ไข่ของยุงยังมีความทนทานในสิ่งแวดล้อมสูง ถึงแม้ว่ายุงจะไข่ทิ้งไว้ตามพื้นดินที่แห้งกรัง แต่เมื่อสัมผัสกับน้ำฝน ไข่เหล่านี้ก็พร้อมที่จะฟักตัวออกมาเป็นลูกน้ำได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ส่งผลให้ฤดูฝน เป็นฤดูที่มีโอกาสพบยุงได้ง่าย และบ่อยมากกว่าฤดูอื่น ๆ นั่นเอง 🦟 ยุงเป็นพาหะของพยาธิหนอนหัวใจได้อย่างไร ?พยาธิหนอนหัวใจระยะตัวอ่อน จะไหลเวียนปะปนอยู่ภายในกระแสเลือดในร่างกายของน้องหมาที่ป่วยด้วยโรคพยาธิหนอนหัวใจ เมื่อยุงกัดและดูดเลือด ยุงจะรับตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจซึ่งมีขนาดเล็กมากเข้าสู่ร่างกาย และเมื่อยุงที่เป็นพาหะนี้บินไปดูดเลือดน้องหมาตัวอื่น ๆ ตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจก็จะเคลื่อนที่จากยุงเข้าสู่ร่างกายของน้องหมาตัวนั้น ๆ ผ่านทางปากที่กำลังดูดเลือด และเติบโตจนก่อให้เกิดโรคพยาธิหนอนหัวใจตามมานั่นเอง 🦟 โดนยุงกัดแค่ครั้งเดียวก็เป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจได้ จริงหรือ ?จริง เพราะตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจมีขนาดเล็กมาก…
 - 

ใครที่กำลังเป็นคุณพ่อ คุณแม่น้องหมาเด็กฟังทางนี้ !
เลี้ยงลูกหมาเด็กต้องระวังพยาธิตัวกลม เพราะพยาธิตัวกลมอาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในลูกหมาได้ !พยาธิตัวกลมก่ออันตรายใดกับลูกหมา และเราจะสามารถปกป้องน้องหมาจากอันตรายร้ายแรงนี้ได้อย่างไร ไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลย ! อันตรายของพยาธิตัวกลมในลูกหมาพยาธิตัวกลม คือพยาธิในระบบทางเดินอาหารที่สามารถพบได้บ่อยในน้องหมา โดยเฉพาะน้องหมาเด็กที่มีอายุน้อย การก่อโรคของพยาธิตัวกลมพบว่ามีตั้งแต่อาการเล็กน้อย คือ ผอม อาเจียน ท้องเสีย ซึม ขนหยาบกระด้าง ไปจนถึงอาการรุนแรง คือ ภาวะปอดบวม ท้องมาน ตับโต โดยเฉพาะในน้องหมาเด็กที่พบการติดพยาธิก่อนคลอด หรือหลังคลอดไม่นาน อาจพบความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ลูกหมาสามารถติดพยาธิตัวกลมจากช่องทางใดได้บ้าง ?การติดพยาธิตัวกลมในน้องหมาเด็กสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่พวกเขายังไม่ออกจากท้องแม่ เพราะพยาธิตัวกลมสามารถแทรกซึมจากแม่หมาติดต่อผ่านรกมายังลูกหมาได้ นอกจากนี้พยาธิตัวกลมยังชอนไชผ่านเต้านม และติดต่อมาสู่ลูกหมาผ่านทางน้ำนมได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อน้องหมาออกจากท้องแม่ พวกเขายังสามารถได้รับไข่ของพยาธิตัวกลมที่อาจปนเปื้อนอยู่ในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมที่สกปรก หรือมีน้องหมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากได้อีกด้วย เรียกได้ว่าลูกหมาเด็กมีความเสี่ยงต่อพยาธิตัวกลมตั้งแต่ในท้องแม่จนออกจากท้องแม่เลยทีเดียว ป้องกันไว้ก่อนสายเกินแก้ฟังมาถึงตรงนี้ หากใครที่กำลังกังวลกับการป้องกันพยาธิตัวกลม เรามีวิธีป้องกันมาแนะนำ !การป้องกันพยาธิตัวกลมในน้องหมา สามารถป้องกันได้ตั้งแต่น้องหมากำลังตั้งท้อง โดยการใช้โปรแกรมปกป้องที่ออกฤทธิ์ครอบคลุมการป้องกันพยาธิภายในที่มีความปลอดภัยสูง สามารถใช้ได้ในแม่หมาที่กำลังตั้งท้อง ซึ่งได้รับการรับรองจากสัตวแพทย์ ร่วมไปกับการพาน้องหมาไปถ่ายพยาธิเป็นประจำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ (อย่างน้อย 3 เดือนต่อหนึ่งครั้ง) และเมื่อน้องหมาคลอดออกมาแล้ว อย่าลืมพาน้องหมาเด็กไปรับการตรวจสุขภาพจากสัตวแพทย์ เพื่อเข้าโปรแกรมการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อ และการถ่ายพยาธิ และเมื่อน้องหมามีอายุได้ 8 สัปดาห์ อย่าลืมปกป้องอย่างต่อเนื่องด้วยการเริ่มโปรแกรมปกป้องน้องหมาจากปรสิตตัวร้ายโดยการ…
เลี้ยงลูกหมาเด็กต้องระวังพยาธิตัวกลม เพราะพยาธิตัวกลมอาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในลูกหมาได้ !
พยาธิตัวกลมก่ออันตรายใดกับลูกหมา และเราจะสามารถปกป้องน้องหมาจากอันตรายร้ายแรงนี้ได้อย่างไร ไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลย !
อันตรายของพยาธิตัวกลมในลูกหมา
พยาธิตัวกลม คือพยาธิในระบบทางเดินอาหารที่สามารถพบได้บ่อยในน้องหมา โดยเฉพาะน้องหมาเด็กที่มีอายุน้อย การก่อโรคของพยาธิตัวกลมพบว่ามีตั้งแต่อาการเล็กน้อย คือ ผอม อาเจียน ท้องเสีย ซึม ขนหยาบกระด้าง ไปจนถึงอาการรุนแรง คือ ภาวะปอดบวม ท้องมาน ตับโต โดยเฉพาะในน้องหมาเด็กที่พบการติดพยาธิก่อนคลอด หรือหลังคลอดไม่นาน อาจพบความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
ลูกหมาสามารถติดพยาธิตัวกลมจากช่องทางใดได้บ้าง ?
การติดพยาธิตัวกลมในน้องหมาเด็กสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่พวกเขายังไม่ออกจากท้องแม่ เพราะพยาธิตัวกลมสามารถแทรกซึมจากแม่หมาติดต่อผ่านรกมายังลูกหมาได้ นอกจากนี้พยาธิตัวกลมยังชอนไชผ่านเต้านม และติดต่อมาสู่ลูกหมาผ่านทางน้ำนมได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อน้องหมาออกจากท้องแม่ พวกเขายังสามารถได้รับไข่ของพยาธิตัวกลมที่อาจปนเปื้อนอยู่ในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมที่สกปรก หรือมีน้องหมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากได้อีกด้วย เรียกได้ว่าลูกหมาเด็กมีความเสี่ยงต่อพยาธิตัวกลมตั้งแต่ในท้องแม่จนออกจากท้องแม่เลยทีเดียว
ป้องกันไว้ก่อนสายเกินแก้
ฟังมาถึงตรงนี้ หากใครที่กำลังกังวลกับการป้องกันพยาธิตัวกลม เรามีวิธีป้องกันมาแนะนำ !
การป้องกันพยาธิตัวกลมในน้องหมา สามารถป้องกันได้ตั้งแต่น้องหมากำลังตั้งท้อง โดยการใช้โปรแกรมปกป้องที่ออกฤทธิ์ครอบคลุมการป้องกันพยาธิภายในที่มีความปลอดภัยสูง สามารถใช้ได้ในแม่หมาที่กำลังตั้งท้อง ซึ่งได้รับการรับรองจากสัตวแพทย์ ร่วมไปกับการพาน้องหมาไปถ่ายพยาธิเป็นประจำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ (อย่างน้อย 3 เดือนต่อหนึ่งครั้ง) และเมื่อน้องหมาคลอดออกมาแล้ว อย่าลืมพาน้องหมาเด็กไปรับการตรวจสุขภาพจากสัตวแพทย์ เพื่อเข้าโปรแกรมการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อ และการถ่ายพยาธิ และเมื่อน้องหมามีอายุได้ 8 สัปดาห์ อย่าลืมปกป้องอย่างต่อเนื่องด้วยการเริ่มโปรแกรมปกป้องน้องหมาจากปรสิตตัวร้ายโดยการ ผสาน 3 พลัง การปกป้อง เพียงเท่านี้ก็หมดกังวลเรื่องพยาธิตัวกลมตัวร้าย แถมยังปลอดภัยจากปรสิตร้ายชนิดอื่น ๆ ได้อีกด้วย
พยาธิตัวกลม ปรสิตร้ายที่ทำให้น้องหมาเด็กเป็นอันตรายได้ถึงชีวิต
🐶 ดูแลน้องหมาด้วยโปรแกรมป้องกันปรสิต ปลอดภัยทั้งภายนอกและภายใน สำหรับสุนัขที่สัตวแพทย์แนะนำเป็นประจำทุกเดือน
🎯 Simple Protection Triple Action ผสาน 3 พลัง อีกขั้นของการปกป้อง ดูแลง่าย ปลอดภัย อุ่นใจยกบ้าน
ดูแลป้องกันปรสิตร้ายทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ ปรสิตภายนอก (หมัด เห็บ ไร) พยาธิหนอนหัวใจ-พยาธิปอด และพยาธิทางเดินอาหาร
#SimpleProtection #TripleAction #ผสาน3พลัง #อีกขั้นของการปกป้อง #ดูแลง่าย #ปลอดภัย #อุ่นใจยกบ้าน - 

ฤดูฝนนี้ ระวังเห็บระบาด !
ไขข้อสงสัย ทำไมเห็บระบาดช่วงหน้าฝน 🌧 ฝนตกแบบนี้ อย่าลืมป้องกันเห็บให้น้องหมา เพราะช่วงฤดูฝน คือช่วงฤดูที่มีเห็บระบาดแบบสุด ๆ ! 😱สาเหตุที่ฤดูฝน เป็นฤดูที่มีการแพร่ระบาดของเห็บมากที่สุด เป็นเพราะ 📍 ความชื้นส่งผลให้เห็บเพิ่มจำนวนได้มากขึ้น 💧เพราะเห็บมีการเพิ่มจำนวนในสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นพื้นดิน ซอก มุม หรือแม้กระทั่งภายในบ้าน โดยเห็บตัวเมียเพียงตัวเดียวสามารถออกไข่ได้มากถึง 4,000 ฟอง และไข่เหล่านั้นจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการฟักตัว ซึ่งความชื้น นับเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ไข่เห็บเกิดการฟักตัวได้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้เองช่วงหน้าฝนที่มีความชื้นสูงจึงสามารถพบเห็บได้มากกว่าฤดูอื่น ๆ นั่นเอง 📍 น้องหมาชอบลุยฝน และได้รับไข่เห็บมากับหยดน้ำบนยอดหญ้าโดยไม่รู้ตัว 🐕ฝนตกชุ่มฉ่ำแบบนี้ ใครล่ะจะอดใจไหว ! โดยเฉพาะน้องหมาที่ชอบเล่นน้ำฝน ชอบลุยโคลนเป็นชีวิตจิตใจยิ่งยากที่จะห้ามใจอยู่ ด้วยเหตุนี้เอง น้องหมาที่ชอบลุยฝนจึงมักได้รับไข่เห็บที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะไข่เห็บที่ติดมากับหยดน้ำบนยอดหญ้าโดยไม่รู้ตัว เมื่อเข้ามาภายในบ้าน ถึงแม้เจ้าของจะเช็ดตัวให้น้องหมาจนแห้งสนิทแล้ว แต่ไข่เห็บเหล่านั้นก็ยังติดอยู่กับผ้าเช็ดตัวของน้อง ๆ รอวันที่จะฟักตัวออกมา และกระโดดขึ้นสู่ร่างกายน้องหมาได้ทุกเมื่อ รู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมป้องกันเห็บให้น้องหมาอยู่เสมอ เพราะการป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่าการตามมารักษาในภายหลัง (ขอแอบกระซิบว่าการโดนเห็บกัดเสี่ยงต่อโรคร้ายหลายโรค ทั้งโรคพยาธิเม็ดเลือด และโรคผิวหนัง อย่ารอให้น้องหมาป่วยเลยจะดีกว่า !) เคล็ดลับป้องกันเห็บในหน้าฝนสามารถทำได้ง่าย ๆ…
ไขข้อสงสัย ทำไมเห็บระบาดช่วงหน้าฝน
🌧 ฝนตกแบบนี้ อย่าลืมป้องกันเห็บให้น้องหมา เพราะช่วงฤดูฝน คือช่วงฤดูที่มีเห็บระบาดแบบสุด ๆ ! 😱
สาเหตุที่ฤดูฝน เป็นฤดูที่มีการแพร่ระบาดของเห็บมากที่สุด เป็นเพราะ
📍 ความชื้นส่งผลให้เห็บเพิ่มจำนวนได้มากขึ้น 💧
เพราะเห็บมีการเพิ่มจำนวนในสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นพื้นดิน ซอก มุม หรือแม้กระทั่งภายในบ้าน โดยเห็บตัวเมียเพียงตัวเดียวสามารถออกไข่ได้มากถึง 4,000 ฟอง และไข่เหล่านั้นจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการฟักตัว ซึ่งความชื้น นับเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ไข่เห็บเกิดการฟักตัวได้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้เองช่วงหน้าฝนที่มีความชื้นสูงจึงสามารถพบเห็บได้มากกว่าฤดูอื่น ๆ นั่นเอง
📍 น้องหมาชอบลุยฝน และได้รับไข่เห็บมากับหยดน้ำบนยอดหญ้าโดยไม่รู้ตัว 🐕
ฝนตกชุ่มฉ่ำแบบนี้ ใครล่ะจะอดใจไหว ! โดยเฉพาะน้องหมาที่ชอบเล่นน้ำฝน ชอบลุยโคลนเป็นชีวิตจิตใจยิ่งยากที่จะห้ามใจอยู่ ด้วยเหตุนี้เอง น้องหมาที่ชอบลุยฝนจึงมักได้รับไข่เห็บที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะไข่เห็บที่ติดมากับหยดน้ำบนยอดหญ้าโดยไม่รู้ตัว เมื่อเข้ามาภายในบ้าน ถึงแม้เจ้าของจะเช็ดตัวให้น้องหมาจนแห้งสนิทแล้ว แต่ไข่เห็บเหล่านั้นก็ยังติดอยู่กับผ้าเช็ดตัวของน้อง ๆ รอวันที่จะฟักตัวออกมา และกระโดดขึ้นสู่ร่างกายน้องหมาได้ทุกเมื่อ
รู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมป้องกันเห็บให้น้องหมาอยู่เสมอ เพราะการป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่าการตามมารักษาในภายหลัง (ขอแอบกระซิบว่าการโดนเห็บกัดเสี่ยงต่อโรคร้ายหลายโรค ทั้งโรคพยาธิเม็ดเลือด และโรคผิวหนัง อย่ารอให้น้องหมาป่วยเลยจะดีกว่า !)
เคล็ดลับป้องกันเห็บในหน้าฝนสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียง
🛡 1. ดูแลรักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะบริเวณที่น้องหมาอยู่อาศัย ด้วยการรักษาความสะอาด ดูดฝุ่นอยู่เสมอ และป้องกันไม่ให้มีความชื้นสะสม โดยเฉพาะบริเวณเบาะ หรือผ้า อันเป็นแหล่งหลบซ่อนชั้นดีของเห็บ
🛡2. มอบการปกป้องอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือนด้วยโปรแกรมปกป้องน้องหมาจากปรสิตร้ายที่สัตวแพทย์แนะนำ โดยนอกจากการป้องกันเห็บแล้ว ทางที่ดีควรเสริมเกราะป้องกันให้ครบ ผสาน 3 พลัง อีกขั้นของการปกป้อง อันได้แก่ เกราะป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ เกราะป้องกันหมัด เห็บ และเกราะป้องกันพยาธิทางเดินอาหาร เพื่อช่วยให้น้องหมามีสุขภาพดี หมดกังวลเรื่องปรสิตไปได้เลย
หน้าฝนเห็บระบาด อย่าลืมปกป้องน้องหมาจากเห็บร้ายตั้งแต่วันนี้ 🧡
🐶 ดูแลน้องหมาด้วยโปรแกรมป้องกันปรสิต ปลอดภัยทั้งภายนอกและภายใน สำหรับสุนัขที่สัตวแพทย์แนะนำเป็นประจำทุกเดือน
🎯 Simple Protection Triple Action ผสาน 3 พลัง อีกขั้นของการปกป้อง ดูแลง่าย ปลอดภัย อุ่นใจยกบ้าน
ดูแลป้องกันปรสิตร้ายทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ ปรสิตภายนอก (หมัด เห็บ ไร) พยาธิหนอนหัวใจ-พยาธิปอด และพยาธิทางเดินอาหาร
#SimpleProtection #TripleAction #ผสาน3พลัง #อีกขั้นของการปกป้อง #ดูแลง่าย #ปลอดภัย #อุ่นใจยกบ้าน - 

แชร์ 5 เคล็ด(ไม่)ลับ
มาป้องกันเห็บในหน้าฝนกันเถอะ ! 🌧️เพราะความชื้น คือตัวการสำคัญที่ทำให้เห็บเกิดการแพร่ระบาดได้ง่ายในหน้าฝน เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน สิ่งที่เจ้าของสุนัขหลายคนต้องกังวลก็คือ “เห็บ–หมัด” ศัตรูตัวร้ายที่มักระบาดหนักเป็นพิเศษในช่วงนี้เนื่องจากสภาพอากาศชื้นและเย็นเอื้อต่อการขยายพันธุ์ของพวกมันเป็นอย่างมาก เห็บหมัดไม่ได้สร้างเพียงความรำคาญให้น้องหมาแต่ยังเป็นพาหะนำโรคที่อันตราย เช่น โรคพยาธิในเม็ดเลือด ที่สามารถทำให้สุนัขอ่อนแรง ซีด และถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี การป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นสิ่งที่เจ้าของควรทำอย่างจริงจัง และนี่คือ 5 เคล็ด(ไม่)ลับ ที่ช่วยป้องกันเห็บหมัดในหน้าฝนให้ได้ผลอย่างครอบคลุม 1. รักษาความสะอาดบ้านและที่อยู่อาศัย 🏠✨แม้เราจะเห็นเห็บเกาะตามตัวสุนัข แต่ในความจริงแล้ว ไข่และตัวอ่อนจำนวนมากมักซ่อนตัวอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพรม โซฟา ที่นอนสัตว์เลี้ยง หรือมุมอับชื้น หากไม่กำจัดให้หมด วงจรการแพร่พันธุ์ก็จะไม่สิ้นสุด ดังนั้นเจ้าของจึงควรหมั่นทำความสะอาดบ้านอย่างละเอียด ดูดฝุ่นตามซอกมุมและเฟอร์นิเจอร์เป็นประจำ ซักที่นอนและผ้าห่มของสุนัขทุกสัปดาห์ รวมถึงใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยงเพื่อกำจัดเชื้อโรคและตัวปรสิตที่อาจหลงเหลืออยู่ วิธีนี้จะช่วยลดจำนวนเห็บหมัดและป้องกันการฟักตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. อาบน้ำและดูแลขนน้องหมาเป็นประจำ 🛁🐾ความเปียกชื้นที่ติดอยู่บนผิวหนังและเส้นขนหลังเล่นน้ำฝนหรือเดินลุยสนามเปียก คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เห็บเจริญเติบโตได้รวดเร็ว การอาบน้ำอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นการลดความเสี่ยงในตัวเองควรเลือกแชมพูสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดการสะสมของปรสิต และหลังอาบน้ำควรเช็ดหรือเป่าขนให้แห้งสนิททุกครั้ง การแปรงขนก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เจ้าของสังเกตได้ว่าสุนัขมีเห็บหมัดเกาะอยู่หรือไม่ รวมถึงช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและทำให้ผิวหนังแข็งแรงมากขึ้นได้อีกด้วย 3. ดูแลสนามหญ้าและพื้นที่รอบบ้าน 🌿✂️นอกจากตัวบ้านแล้ว บริเวณรอบบ้านก็เป็นพื้นที่เสี่ยงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะสนามหญ้าที่รกและมีความชื้นสูง มักเป็นแหล่งอาศัยและเพาะพันธุ์ชั้นดีของเห็บหมัดการตัดหญ้าอย่างสม่ำเสมอ กำจัดวัชพืช และเก็บกวาดเศษใบไม้ที่เปียกชื้น จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการป้องกัน…
มาป้องกันเห็บในหน้าฝนกันเถอะ ! 🌧️
เพราะความชื้น คือตัวการสำคัญที่ทำให้เห็บเกิดการแพร่ระบาดได้ง่ายในหน้าฝนเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน สิ่งที่เจ้าของสุนัขหลายคนต้องกังวลก็คือ “เห็บ–หมัด” ศัตรูตัวร้ายที่มักระบาดหนักเป็นพิเศษในช่วงนี้
เนื่องจากสภาพอากาศชื้นและเย็นเอื้อต่อการขยายพันธุ์ของพวกมันเป็นอย่างมาก เห็บหมัดไม่ได้สร้างเพียงความรำคาญให้น้องหมา
แต่ยังเป็นพาหะนำโรคที่อันตราย เช่น โรคพยาธิในเม็ดเลือด ที่สามารถทำให้สุนัขอ่อนแรง ซีด และถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีการป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นสิ่งที่เจ้าของควรทำอย่างจริงจัง และนี่คือ 5 เคล็ด(ไม่)ลับ ที่ช่วยป้องกันเห็บหมัดในหน้าฝนให้ได้ผลอย่างครอบคลุม
1. รักษาความสะอาดบ้านและที่อยู่อาศัย 🏠✨
แม้เราจะเห็นเห็บเกาะตามตัวสุนัข แต่ในความจริงแล้ว ไข่และตัวอ่อนจำนวนมากมักซ่อนตัวอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพรม โซฟา ที่นอนสัตว์เลี้ยง หรือมุมอับชื้น หากไม่กำจัดให้หมด วงจรการแพร่พันธุ์ก็จะไม่สิ้นสุด ดังนั้นเจ้าของจึงควรหมั่นทำความสะอาดบ้านอย่างละเอียด ดูดฝุ่นตามซอกมุมและเฟอร์นิเจอร์เป็นประจำ ซักที่นอนและผ้าห่มของสุนัขทุกสัปดาห์ รวมถึงใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยงเพื่อกำจัดเชื้อโรคและตัวปรสิตที่อาจหลงเหลืออยู่ วิธีนี้จะช่วยลดจำนวนเห็บหมัดและป้องกันการฟักตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ2. อาบน้ำและดูแลขนน้องหมาเป็นประจำ 🛁🐾
ความเปียกชื้นที่ติดอยู่บนผิวหนังและเส้นขนหลังเล่นน้ำฝนหรือเดินลุยสนามเปียก คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เห็บเจริญเติบโตได้รวดเร็ว การอาบน้ำอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นการลดความเสี่ยงในตัวเอง
ควรเลือกแชมพูสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดการสะสมของปรสิต และหลังอาบน้ำควรเช็ดหรือเป่าขนให้แห้งสนิททุกครั้ง การแปรงขนก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เจ้าของสังเกตได้ว่าสุนัขมีเห็บหมัดเกาะอยู่หรือไม่ รวมถึงช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและทำให้ผิวหนังแข็งแรงมากขึ้นได้อีกด้วย3. ดูแลสนามหญ้าและพื้นที่รอบบ้าน 🌿✂️
นอกจากตัวบ้านแล้ว บริเวณรอบบ้านก็เป็นพื้นที่เสี่ยงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะสนามหญ้าที่รกและมีความชื้นสูง มักเป็นแหล่งอาศัยและเพาะพันธุ์ชั้นดีของเห็บหมัด
การตัดหญ้าอย่างสม่ำเสมอ กำจัดวัชพืช และเก็บกวาดเศษใบไม้ที่เปียกชื้น จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการป้องกัน หากพื้นที่รอบบ้านมีน้ำขัง ควรปรับปรุงการระบายน้ำเพื่อลดสภาพอับชื้น เพราะหากปล่อยไว้ น้องหมาอาจนำเห็บจากสนามหญ้าเข้ามาสู่ในบ้านได้โดยไม่รู้ตัว4. ตรวจสุขภาพและเช็กตัวน้องหมาเป็นประจำ 👩⚕️🐶
การตรวจสุขภาพสุนัขเป็นประจำถือเป็นอีกหนึ่งเกราะป้องกันที่ไม่ควรมองข้าม เจ้าของควรหมั่นตรวจตามตัวน้องหลังจากออกไปเล่นนอกบ้าน โดยเฉพาะจุดที่เห็บชอบเกาะ เช่น ซอกหู รักแร้ ขาหนีบ และซอกนิ้ว หากพบเห็บ ควรใช้คีมดึงเห็บออกอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ไม่ควรดึงด้วยมือเปล่า เพราะส่วนปากของเห็บอาจยังฝังอยู่ใต้ผิวหนัง
นอกจากนี้ การพาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์เป็นระยะก็เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะหากติดโรคที่เห็บเป็นพาหะ เช่น พยาธิในเม็ดเลือด อาการมักไม่แสดงให้เห็นทันที การตรวจสุขภาพจะช่วยให้พบโรคได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม5. ใช้โปรแกรมป้องกันเห็บ–หมัดแบบครบวงจร 💊🛡️
ถึงแม้จะใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของน้องหมาอย่างดีแล้ว แต่การเสริมเกราะป้องกันจากภายในด้วยผลิตภัณฑ์หรือโปรแกรมป้องกันก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่ความเสี่ยงสูงขึ้น
ด้วยการปกป้องอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือนด้วยโปรแกรมปกป้องน้องหมาจากปรสิตร้ายที่สัตวแพทย์แนะนำ โดยนอกจากการป้องกันเห็บแล้ว ทางที่ดีควรเสริมเกราะป้องกันให้ครบ ผสาน 3 พลัง อีกขั้นของการปกป้อง อันได้แก่ เกราะป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ เกราะป้องกันหมัด เห็บ และเกราะป้องกันพยาธิทางเดินอาหาร เพื่อช่วยให้น้องหมามีสุขภาพดี หมดกังวลเรื่องปรสิตไปได้เลยการป้องกันเห็บหมัดในหน้าฝนไม่ใช่เรื่องยากเกินไป หากเจ้าของใส่ใจและลงมือทำอย่างต่อเนื่อง ด้วย 5 เคล็ด(ไม่)ลับที่กล่าวมา ตั้งแต่ การรักษาความสะอาดบ้าน อาบน้ำดูแลขน จัดการสนามหญ้า ตรวจสุขภาพ ไปจนถึงการใช้โปรแกรมป้องกันที่ได้มาตรฐาน จะช่วยให้น้องหมาของคุณปลอดภัย ห่างไกลจากปรสิต และใช้ชีวิตอย่างสดใสในทุกฤดูกาล
เพราะการดูแลปกป้องน้องหมาไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพ แต่ยังคือความสุขและความสบายใจของทั้งครอบครัวด้วย 🧡
🐶 ดูแลน้องหมาด้วยโปรแกรมป้องกันปรสิต ปลอดภัยทั้งภายนอกและภายใน สำหรับสุนัขที่สัตวแพทย์แนะนำเป็นประจำทุกเดือน
🎯 Simple Protection Triple Action ผสาน 3 พลัง อีกขั้นของการปกป้อง ดูแลง่าย ปลอดภัย อุ่นใจยกบ้าน
ดูแลป้องกันปรสิตร้ายทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ ปรสิตภายนอก (หมัด เห็บ ไร) พยาธิหนอนหัวใจ-พยาธิปอด และพยาธิทางเดินอาหาร#SimpleProtection #TripleAction #ผสาน3พลัง #อีกขั้นของการปกป้อง #ดูแลง่าย #ปลอดภัย #อุ่นใจยกบ้าน
 - 

เห็บกัดระวังพยาธิเม็ดเลือด !
โรคร้ายที่แฝงมากับเห็บ ปล่อยไว้อันตรายถึงชีวิต ! รู้หรือไม่ !? เห็บกัดไม่ใช่แค่คัน แต่ยังนำโรคร้ายอย่าง “โรคพยาธิเม็ดเลือด” มาสู่น้องหมาได้อีกด้วย ! 😱 🩸 โรคพยาธิเม็ดเลือดเกิดจากอะไรกันนะ ? 🐶โรคพยาธิเม็ดเลือดเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งซึ่งมี “เห็บ” เป็นพาหะ โดยน้องหมาจะได้รับเชื้อชนิดนี้ผ่านทางการโดนเห็บกัด สามารถพบได้บ่อยในน้องหมาที่ไม่ได้รับการป้องกันปรสิตอย่างสม่ำเสมอ หรือใช้โปรแกรมป้องกันปรสิตที่ไม่ได้มาตรฐาน 🩸 อาการของโรคพยาธิเม็ดเลือดเป็นอย่างไร ? 🤔อาการของโรคพยาธิเม็ดเลือดที่สามารถสังเกตเห็นได้ชัด คือ น้องหมาจะมีไข้สูง ซึม เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ต่อมน้ำเหลืองบวมโต หายใจลำบาก ในบางรายอาจพบจุดเลือดออกตามผิวหนัง เลือดกำเดาไหล และอาการทางประสาทร่วมด้วยได้ 🩸 โรคพยาธิเม็ดเลือดรักษาได้อย่างไร ? 💊หากน้องหมาป่วยด้วยโรคพยาธิเม็ดเลือด สัตวแพทย์จะทำการให้ยาปฏิชีวนะต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานถึง 28 วัน โดยหลังจากให้ยาครบตามจำนวนแล้ว น้องหมาจะต้องเข้ารับการตรวจเพื่อตรวจหาเชื้อที่ยังคงคั่งค้างอยู่ภายในร่างกาย หากยังคงตรวจพบเชื้ออยู่ น้องหมาจำเป็นต้องได้รับยาต่อเนื่องอีกครั้งจนกว่าจะหาย หรือทำการเปลี่ยนชนิดของยาเพื่อทำการกำจัดเชื้อให้สิ้นซาก ร่วมไปกับการรักษาตามอาการ เช่น การให้สารน้ำ การให้ยาลดอักเสบ ยากดภูมิ หรือแม้กระทั่งการถ่ายเลือดในรายที่มีอาการรุนแรง 🩸 โรคพยาธิเม็ดเลือด ป้องกันไว้ดีกว่าตามรักษา…
โรคร้ายที่แฝงมากับเห็บ ปล่อยไว้อันตรายถึงชีวิต !
รู้หรือไม่ !? เห็บกัดไม่ใช่แค่คัน แต่ยังนำโรคร้ายอย่าง “โรคพยาธิเม็ดเลือด” มาสู่น้องหมาได้อีกด้วย ! 😱
🩸 โรคพยาธิเม็ดเลือดเกิดจากอะไรกันนะ ? 🐶
โรคพยาธิเม็ดเลือดเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งซึ่งมี “เห็บ” เป็นพาหะ โดยน้องหมาจะได้รับเชื้อชนิดนี้ผ่านทางการโดนเห็บกัด สามารถพบได้บ่อยในน้องหมาที่ไม่ได้รับการป้องกันปรสิตอย่างสม่ำเสมอ หรือใช้โปรแกรมป้องกันปรสิตที่ไม่ได้มาตรฐาน
🩸 อาการของโรคพยาธิเม็ดเลือดเป็นอย่างไร ? 🤔
อาการของโรคพยาธิเม็ดเลือดที่สามารถสังเกตเห็นได้ชัด คือ น้องหมาจะมีไข้สูง ซึม เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ต่อมน้ำเหลืองบวมโต หายใจลำบาก ในบางรายอาจพบจุดเลือดออกตามผิวหนัง เลือดกำเดาไหล และอาการทางประสาทร่วมด้วยได้
🩸 โรคพยาธิเม็ดเลือดรักษาได้อย่างไร ? 💊
หากน้องหมาป่วยด้วยโรคพยาธิเม็ดเลือด สัตวแพทย์จะทำการให้ยาปฏิชีวนะต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานถึง 28 วัน โดยหลังจากให้ยาครบตามจำนวนแล้ว น้องหมาจะต้องเข้ารับการตรวจเพื่อตรวจหาเชื้อที่ยังคงคั่งค้างอยู่ภายในร่างกาย หากยังคงตรวจพบเชื้ออยู่ น้องหมาจำเป็นต้องได้รับยาต่อเนื่องอีกครั้งจนกว่าจะหาย หรือทำการเปลี่ยนชนิดของยาเพื่อทำการกำจัดเชื้อให้สิ้นซาก ร่วมไปกับการรักษาตามอาการ เช่น การให้สารน้ำ การให้ยาลดอักเสบ ยากดภูมิ หรือแม้กระทั่งการถ่ายเลือดในรายที่มีอาการรุนแรง
🩸 โรคพยาธิเม็ดเลือด ป้องกันไว้ดีกว่าตามรักษา 🛡
ถึงแม้โรคพยาธิเม็ดเลือดจะสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับร่างกายก็ยากที่จะฟื้นฟูกลับมาได้เหมือนเก่า ซ้ำร้ายหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม โรคพยาธิเม็ดเลือดก็ยังเป็นหนึ่งในโรคที่น้องหมาสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีกเรื่อย ๆ เพราะถึงแม้เชื้อส่วนหนึ่งจะถูกกำจัดไป แต่เชื้อบางส่วนยังคงหลบซ่อนจากระบบภูมิคุ้มกันอยู่ภายในร่างกาย และคอยเวลากลับมาทำให้น้องหมาป่วยได้อีกอยู่เสมอ
การป้องกันโรคพยาธิเม็ดเลือดที่ดีที่สุดจึงเป็นการป้องกันไว้ตั้งแต่ต้น ด้วยการปกป้องน้องหมาจาก “เห็บ” พาหะของโรคพยาธิเม็ดเลือด โดยการใช้โปรแกรมปกป้องน้องหมาจากปรสิตร้ายที่อันตรายถึงชีวิตเป็นประจำทุกเดือน และหมั่นคอยดูแลรักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยไร้เห็บอยู่เสมอ
หากน้องหมาแสดงอาการผิดปกติควรรีบพาน้องหมามารับการตรวจจากสัตวแพทย์โดยทันที และอย่าลืมเสริมเกราะป้องกันจาก Simple Protection โปรแกรมปกป้องน้องหมาจากปรสิตร้ายที่อันตรายถึงชีวิต โปรแกรมปกป้องที่สัตวแพทย์ไว้วางใจ เพื่อปกป้องน้องหมาจาก “เห็บ” และปรสิตร้ายที่พบได้บ่อยตั้งแต่วันนี้ 🧡
🐶 ดูแลน้องหมาด้วยโปรแกรมป้องกันปรสิต ปลอดภัยทั้งภายนอกและภายใน สำหรับสุนัขที่สัตวแพทย์แนะนำเป็นประจำทุกเดือน
🎯 Simple Protection Triple Action ผสาน 3 พลัง อีกขั้นของการปกป้อง ดูแลง่าย ปลอดภัย อุ่นใจยกบ้าน
ดูแลป้องกันปรสิตร้ายทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ ปรสิตภายนอก (หมัด เห็บ ไร) พยาธิหนอนหัวใจ-พยาธิปอด และพยาธิทางเดินอาหาร
#SimpleProtection #TripleAction #ผสาน3พลัง #อีกขั้นของการปกป้อง #ดูแลง่าย #ปลอดภัย #อุ่นใจยกบ้าน - 

เลี้ยงน้องหมาในบ้าน ยังจำเป็นต้องป้องกันปรสิต
“การป้องกัน ย่อมดีกว่าการรักษา” ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้จะเลี้ยงน้องหมาแค่ภายในบ้าน แต่น้องหมาก็ยัง “จำเป็น” ต้องป้องกันปรสิต3 เหตุผลที่ถึงแม้จะเลี้ยงน้องหมาแค่ภายในบ้าน แต่ก็ยังจำเป็นต้องป้องกันปรสิต ได้แก่ 1. ปรสิตสามารถติดมากับเจ้าของได้ 👫🏻ไม่ว่าจะเห็บ หมัด หรือไข่ของพยาธิในระบบทางเดินอาหาร ปรสิตร้ายเหล่านี้สามารถติดมากับเจ้าของได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะติดมากับเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรือแม้กระทั่งบนร่างกายของเจ้าของเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของท่านไหนที่มักเดินทางไปในบริเวณที่มีความสกปรก บริเวณที่เป็นพื้นดิน หรือบริเวณที่มีน้องหมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นถึงแม้จะเลี้ยงน้องหมาให้อยู่แค่ภายในบ้าน แต่ปรสิตร้ายก็อาจเข้ามารุกรานน้องหมาได้ทุกเมื่อ ทางที่ดีอย่าลืมเสริมเกราะป้องกันให้ครบทั้ง 3 ชั้น เพื่อปกป้องน้องหมาจากพยาธิหนอนหัวใจ เห็บ หมัด และพยาธิทางเดินอาหาร ซึ่งสามารถติดได้ง่าย และพบเจอได้บ่อย ป้องกันไว้ก่อนย่อมดีที่สุด ! 2. ปรสิตอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นาน 🌴ความน่ากลัวของปรสิตไม่หยุดเพียงแค่สามารถติดต่อได้ง่าย แต่พวกมันยังมีความคงทน สามารถอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้เป็นระยะเวลานาน เช่น เห็บสามารถคงอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานถึง 2 ปี (โดยในระหว่าง 2 ปีนี้ เห็บเพศเมียจะสามารถออกไข่ได้สูงสุดถึง 4,000 ฟอง !) หมัดสามารถคงอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานถึง 6 เดือน…
“การป้องกัน ย่อมดีกว่าการรักษา” ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้จะเลี้ยงน้องหมาแค่ภายในบ้าน แต่น้องหมาก็ยัง “จำเป็น” ต้องป้องกันปรสิต
3 เหตุผลที่ถึงแม้จะเลี้ยงน้องหมาแค่ภายในบ้าน แต่ก็ยังจำเป็นต้องป้องกันปรสิต ได้แก่
1. ปรสิตสามารถติดมากับเจ้าของได้ 👫🏻
ไม่ว่าจะเห็บ หมัด หรือไข่ของพยาธิในระบบทางเดินอาหาร ปรสิตร้ายเหล่านี้สามารถติดมากับเจ้าของได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะติดมากับเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรือแม้กระทั่งบนร่างกายของเจ้าของเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของท่านไหนที่มักเดินทางไปในบริเวณที่มีความสกปรก บริเวณที่เป็นพื้นดิน หรือบริเวณที่มีน้องหมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นถึงแม้จะเลี้ยงน้องหมาให้อยู่แค่ภายในบ้าน แต่ปรสิตร้ายก็อาจเข้ามารุกรานน้องหมาได้ทุกเมื่อ ทางที่ดีอย่าลืมเสริมเกราะป้องกันให้ครบทั้ง 3 ชั้น เพื่อปกป้องน้องหมาจากพยาธิหนอนหัวใจ เห็บ หมัด และพยาธิทางเดินอาหาร ซึ่งสามารถติดได้ง่าย และพบเจอได้บ่อย ป้องกันไว้ก่อนย่อมดีที่สุด !
2. ปรสิตอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นาน 🌴
ความน่ากลัวของปรสิตไม่หยุดเพียงแค่สามารถติดต่อได้ง่าย แต่พวกมันยังมีความคงทน สามารถอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้เป็นระยะเวลานาน เช่น เห็บสามารถคงอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานถึง 2 ปี (โดยในระหว่าง 2 ปีนี้ เห็บเพศเมียจะสามารถออกไข่ได้สูงสุดถึง 4,000 ฟอง !) หมัดสามารถคงอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานถึง 6 เดือน (แถมในระหว่าง 6 เดือนนี้ หมัดเพศเมียยังสามารถออกไข่ได้มากถึงวันละ 50 ฟอง !) หรือไข่ของพยาธิทางเดินอาหารกลุ่มพยาธิตัวกลมสามารถคงอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานถึง 10 ปี ! บอกเลยว่าปรสิตนอกจากจะอยู่รอบตัวน้องหมา พวกมันยังคงทนอยู่ได้นาน (โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทย ปรสิตยิ่งมีความแข็งแกร่ง เจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ) รู้แบบนี้ไม่ว่าจะเลี้ยงน้องหมาแค่ภายในบ้าน หรือนอกบ้าน อย่าลืมปกป้องน้องหมาจากปรสิตร้ายเหล่านี้ให้ดีนะ !
3. น้องหมาโดนปรสิตกัดแค่ครั้งเดียวก็ป่วยได้ 😰
โรคร้ายจากปรสิตไม่จำเป็นต้องอาศัยระยะเวลานาน หรือรอให้น้องหมาโดนปรสิตกัดเป็นจำนวนมาก แค่การโดนกัดเพียงครั้งเดียวก็สามารถทำให้น้องหมาป่วยได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจที่มียุงเป็นพาหะ โรคพยาธิเม็ดเลือดที่มีเห็บเป็นพาหะ หรือโรคภูมิแพ้ผิวหนังที่เกิดจากการโดนหมัดกัด ดังนั้น ถึงแม้น้องหมาที่เลี้ยงภายในบ้านจะมีความเสี่ยงน้อยกว่าน้องหมาที่เลี้ยงนอกบ้าน แต่หากพลาดโดนปรสิตกัดแค่ครั้งเดียวก็อาจทำให้น้องหมาป่วยได้ ทางที่ดีไม่ว่าจะเลี้ยงน้องหมาแบบไหน เจ้าของอย่างเราก็ต้องเสริมเกราะป้องกันให้น้องหมาเป็นประจำเพื่อปกป้องน้องหมาจากโรคร้ายเหล่านี้นั่นเอง !
ไม่ว่าปรสิตจะติดมากับเจ้าของ หรือติดมาจากสิ่งแวดล้อม แต่พวกมันก็พร้อมเข้ามาทำร้ายน้องหมาทุกเมื่อ ป้องกันไว้ตั้งแต่วันนี้ ดีกว่าตามรักษา
ปกป้องน้องหมาของคุณจากปรสิตร้ายที่อันตรายถึงชีวิตได้เลยตั้งแต่วันนี้ อย่ารอให้สายเกินแก้ 🧡
🐶 ดูแลน้องหมาด้วยโปรแกรมป้องกันปรสิต ปลอดภัยทั้งภายนอกและภายใน สำหรับสุนัขที่สัตวแพทย์แนะนำเป็นประจำทุกเดือน
🎯 Simple Protection Triple Action ผสาน 3 พลัง อีกขั้นของการปกป้อง ดูแลง่าย ปลอดภัย อุ่นใจยกบ้าน
ดูแลป้องกันปรสิตร้ายทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ ปรสิตภายนอก (หมัด เห็บ ไร) พยาธิหนอนหัวใจ-พยาธิปอด และพยาธิทางเดินอาหาร
#SimpleProtection #TripleAction #ผสาน3พลัง #อีกขั้นของการปกป้อง #ดูแลง่าย #ปลอดภัย #อุ่นใจยกบ้าน - 

เพราะโรคพยาธิหนอนหัวใจ คือหนึ่งโรคร้ายที่อันตรายถึงชีวิต
หากน้องหมาป่วยด้วยโรคหัวใจสามารถทำการรักษาอย่างไรได้บ้าง ไปดูกัน ! 💉 รักษาโดยการให้ยาน้องหมาที่ป่วยด้วยโรคพยาธิหนอนหัวใจสามารถทำการรักษาได้ด้วยการกินยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่แอบแฝงมากับพยาธิหนอนหัวใจ ร่วมกับการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อบริเวณหลังส่วนบั้นเอวเพื่อช่วยในการกำจัดพยาธิหนอนหัวใจตัวเต็มวัยอย่างช้า ๆ ซึ่งการรักษานี้จำเป็นต้องให้ยาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน (ประมาณ 90 วัน) อีกทั้งตัวยาที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้อยังก่อให้เกิดความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก (มากจนคุณหมอต้องให้ยาแก้ปวดควบคู่ไปด้วยทุกครั้งเลยล่ะ) แถมในระหว่างการรักษายังจำเป็นต้องจำกัดบริเวณน้องหมา ด้วยการขังกรง หรือควบคุมให้น้องหมาเคลื่อนไหวน้อยที่สุด เพื่อลดโอกาสในการเกิดลิ่มเลือดอุดตันอีกด้วย เรียกได้ว่าทรมานทั้งเจ้าของที่ต้องดูแลอย่างเข้มงวด ทรมานทั้งน้องหมาที่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก และแสนเจ็บปวดเลยทีเดียว 🩸 รักษาโดยการผ่าตัดสำหรับน้องหมาที่ป่วยด้วยโรคพยาธิหนอนหัวใจขั้นรุนแรง หรือเกิดภาวะพยาธิหนอนหัวใจอุดตัน (caval syndrome) คุณหมออาจพิจารณาทำการผ่าตัดเพื่อเอาพยาธิหนอนหัวใจออกจากร่างกาย ทั้งนี้การผ่าตัดดังกล่าวนับว่ามีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก เพราะร่างกายน้องหมาจะอ่อนแอ และด้วยระบบหมุนเวียนเลือดที่มีปัญหาย่อมส่งผลให้ความเสี่ยงต่อการวางยาสลบมีมากขึ้น ซึ่งนั่นหมายความว่าน้องหมาอาจเสียชีวิตในระหว่างขั้นตอนการรักษาได้ทุกเมื่อ ดังนั้นหากจำเป็นต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัด คุณหมอจะแจ้งความเสี่ยงดังกล่าวให้กับเจ้าของ และตัดสินใจวางแผนการรักษาร่วมกันต่อไป 🧡 เสริมการป้องกันด้วยโปรแกรมปกป้องจาก Simple Protectionโปรแกรมปกป้องจาก Simple Protection จะช่วยเสริมเกราะป้องกันให้กับน้องหมา ช่วยให้น้องหมาปลอดภัยจากพยาธิหนอนหัวใจ ปรสิตร้ายที่อันตรายถึงชีวิต สามารถให้ได้ในระหว่างที่น้องหมากำลังทำการรักษาโรคพยาธิหนอนหัวใจ ด้วยฤทธิ์ในการกำจัดตัวอ่อนของพยาธิจะช่วยให้พยาธิหนอนหัวใจไม่เกิดการเพิ่มจำนวน อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสในการพัฒนาของตัวอ่อนเป็นตัวเต็มวัยได้อีกด้วย และเมื่อน้องหมาหายจากโรคพยาธิหนอนหัวใจแล้ว Simple Protection จะช่วยปกป้องน้องหมาจากพยาธิหนอนหัวใจตัวใหม่ที่เข้ามาพร้อมกับการโดนยุงกัด หมดกังวลว่าน้องหมาจะกลับไปเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจซ้ำได้เลย รักน้องหมา อย่าปล่อยให้น้องหมาต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคพยาธิหนอนหัวใจ เสริมเกราะป้องกันให้น้อง ๆ ตั้งแต่วันนี้…
หากน้องหมาป่วยด้วยโรคหัวใจสามารถทำการรักษาอย่างไรได้บ้าง ไปดูกัน !
💉 รักษาโดยการให้ยา
น้องหมาที่ป่วยด้วยโรคพยาธิหนอนหัวใจสามารถทำการรักษาได้ด้วยการกินยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่แอบแฝงมากับพยาธิหนอนหัวใจ ร่วมกับการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อบริเวณหลังส่วนบั้นเอวเพื่อช่วยในการกำจัดพยาธิหนอนหัวใจตัวเต็มวัยอย่างช้า ๆ ซึ่งการรักษานี้จำเป็นต้องให้ยาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน (ประมาณ 90 วัน) อีกทั้งตัวยาที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้อยังก่อให้เกิดความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก (มากจนคุณหมอต้องให้ยาแก้ปวดควบคู่ไปด้วยทุกครั้งเลยล่ะ) แถมในระหว่างการรักษายังจำเป็นต้องจำกัดบริเวณน้องหมา ด้วยการขังกรง หรือควบคุมให้น้องหมาเคลื่อนไหวน้อยที่สุด เพื่อลดโอกาสในการเกิดลิ่มเลือดอุดตันอีกด้วย เรียกได้ว่าทรมานทั้งเจ้าของที่ต้องดูแลอย่างเข้มงวด ทรมานทั้งน้องหมาที่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก และแสนเจ็บปวดเลยทีเดียว
🩸 รักษาโดยการผ่าตัด
สำหรับน้องหมาที่ป่วยด้วยโรคพยาธิหนอนหัวใจขั้นรุนแรง หรือเกิดภาวะพยาธิหนอนหัวใจอุดตัน (caval syndrome) คุณหมออาจพิจารณาทำการผ่าตัดเพื่อเอาพยาธิหนอนหัวใจออกจากร่างกาย ทั้งนี้การผ่าตัดดังกล่าวนับว่ามีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก เพราะร่างกายน้องหมาจะอ่อนแอ และด้วยระบบหมุนเวียนเลือดที่มีปัญหาย่อมส่งผลให้ความเสี่ยงต่อการวางยาสลบมีมากขึ้น ซึ่งนั่นหมายความว่าน้องหมาอาจเสียชีวิตในระหว่างขั้นตอนการรักษาได้ทุกเมื่อ ดังนั้นหากจำเป็นต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัด คุณหมอจะแจ้งความเสี่ยงดังกล่าวให้กับเจ้าของ และตัดสินใจวางแผนการรักษาร่วมกันต่อไป
🧡 เสริมการป้องกันด้วยโปรแกรมปกป้องจาก Simple Protection
โปรแกรมปกป้องจาก Simple Protection จะช่วยเสริมเกราะป้องกันให้กับน้องหมา ช่วยให้น้องหมาปลอดภัยจากพยาธิหนอนหัวใจ ปรสิตร้ายที่อันตรายถึงชีวิต สามารถให้ได้ในระหว่างที่น้องหมากำลังทำการรักษาโรคพยาธิหนอนหัวใจ ด้วยฤทธิ์ในการกำจัดตัวอ่อนของพยาธิจะช่วยให้พยาธิหนอนหัวใจไม่เกิดการเพิ่มจำนวน อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสในการพัฒนาของตัวอ่อนเป็นตัวเต็มวัยได้อีกด้วย และเมื่อน้องหมาหายจากโรคพยาธิหนอนหัวใจแล้ว Simple Protection จะช่วยปกป้องน้องหมาจากพยาธิหนอนหัวใจตัวใหม่ที่เข้ามาพร้อมกับการโดนยุงกัด หมดกังวลว่าน้องหมาจะกลับไปเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจซ้ำได้เลย
รักน้องหมา อย่าปล่อยให้น้องหมาต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคพยาธิหนอนหัวใจ เสริมเกราะป้องกันให้น้อง ๆ ตั้งแต่วันนี้ !
🐶 ดูแลน้องหมาด้วยโปรแกรมป้องกันปรสิต ปลอดภัยทั้งภายนอกและภายใน สำหรับสุนัขที่สัตวแพทย์แนะนำเป็นประจำทุกเดือน
🎯 Simple Protection Triple Action ผสาน 3 พลัง อีกขั้นของการปกป้อง ดูแลง่าย ปลอดภัย อุ่นใจยกบ้าน
ดูแลป้องกันปรสิตร้ายทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ ปรสิตภายนอก (หมัด เห็บ ไร) พยาธิหนอนหัวใจ-พยาธิปอด และพยาธิทางเดินอาหาร
#SimpleProtection #TripleAction #ผสาน3พลัง #อีกขั้นของการปกป้อง #ดูแลง่าย #ปลอดภัย #อุ่นใจยกบ้าน - 

3 เคล็ดไม่ลับ ดูแลน้องหมาช่วงหน้าฝน
🌧 ฝนตกแบบนี้ ควรดูแลน้องหมาอย่างไรไปดูกัน ! ✅ เช็ดตัวให้แห้ง อย่าปล่อยให้ขนน้องหมาเปียกชื้นฝนตก น้องหมาเปียก อย่าลืมพาพวกเขาไปเช็ดตัว และเป่าลมให้แห้ง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นซอกหลืบ และก่อให้เกิดการอับชื้นได้ง่าย เช่น ง่ามขา ซอกหู หรือแม้กระทั่งง่ามเท้าทั้งสี่ข้าง เพราะความชื้นเป็นสาเหตุของการสะสมของเชื้อรา และยีสต์ซึ่งมักก่อให้เกิดอาการคันในน้องหมา โดยหากน้องหมามีเชื้อรา หรือยีสต์สะสมบนร่างกาย พวกเขาจะมีอาการคันมาก เกา หรือเลียบริเวณที่คันบ่อย อีกทั้งยังมีกลิ่นเหม็นบนร่างกาย เรียกได้ว่าทรมานทั้งคนเลี้ยง ทรมานทั้งน้องหมาเลยล่ะ หากน้องหมาแสดงอาการป่วยเหล่านี้ ควรรีบพาน้องไปรับการรักษาจากสัตวแพทย์โดยด่วน ✅ ระบายอากาศ อย่าปล่อยให้ห้องอับชื้นฝนตกย่อมคู่กับอากาศชื้น แต่คุณรู้หรือไม่ ? อากาศชื้นไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดความไม่สบายตัว แต่ยังเพิ่มโอกาสในการเพิ่มขึ้นของเชื้อโรค โดยเฉพาะเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคทางระบบทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย โดยเชื้อเหล่านี้จะส่งผลให้น้องหมาป่วยด้วยโรคหวัด และโรคหลอดลมอักเสบติดต่อ ซึ่งสามารถแพร่ระบาดไปมาระหว่างกันในน้องหมาได้ (บ้านไหนที่เลี้ยงน้องหมาร่วมกันหลายตัว ต้องระวังการแพร่ระบาดของโรคเหล่านี้ในหน้าฝนให้ดีเลยล่ะ) โดยอาการที่สามารถสังเกตได้มีตั้งแต่อาการไอแบบมีเสมหะ มีน้ำมูกไหล ไปจนถึงมีไข้สูง ซึม เบื่ออาหาร ในรายที่รุนแรงอาจถึงขั้นเกิดภาวะปอดบวม และเสียชีวิตได้เลยทีเดียว แต่ไม่ต้องกังวลไป ! เพราะโรคหวัดสามารถป้องกันได้เพียงการพาน้องหมาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคเป็นประจำทุกปี (วัคซีนรวมที่น้องหมาฉีดจะช่วยให้น้องหมามีภูมิคุ้มกันต่อโรคหวัดและหลอดลมอักเสบติดต่อได้นั่นเอง) ดังนั้นหน้าฝนแบบนี้อย่าลืมเปิดพัดลมระบายอากาศ…
🌧 ฝนตกแบบนี้ ควรดูแลน้องหมาอย่างไรไปดูกัน !
✅ เช็ดตัวให้แห้ง อย่าปล่อยให้ขนน้องหมาเปียกชื้น
ฝนตก น้องหมาเปียก อย่าลืมพาพวกเขาไปเช็ดตัว และเป่าลมให้แห้ง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นซอกหลืบ และก่อให้เกิดการอับชื้นได้ง่าย เช่น ง่ามขา ซอกหู หรือแม้กระทั่งง่ามเท้าทั้งสี่ข้าง เพราะความชื้นเป็นสาเหตุของการสะสมของเชื้อรา และยีสต์ซึ่งมักก่อให้เกิดอาการคันในน้องหมา โดยหากน้องหมามีเชื้อรา หรือยีสต์สะสมบนร่างกาย พวกเขาจะมีอาการคันมาก เกา หรือเลียบริเวณที่คันบ่อย อีกทั้งยังมีกลิ่นเหม็นบนร่างกาย เรียกได้ว่าทรมานทั้งคนเลี้ยง ทรมานทั้งน้องหมาเลยล่ะ หากน้องหมาแสดงอาการป่วยเหล่านี้ ควรรีบพาน้องไปรับการรักษาจากสัตวแพทย์โดยด่วน
✅ ระบายอากาศ อย่าปล่อยให้ห้องอับชื้น
ฝนตกย่อมคู่กับอากาศชื้น แต่คุณรู้หรือไม่ ? อากาศชื้นไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดความไม่สบายตัว แต่ยังเพิ่มโอกาสในการเพิ่มขึ้นของเชื้อโรค โดยเฉพาะเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคทางระบบทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย โดยเชื้อเหล่านี้จะส่งผลให้น้องหมาป่วยด้วยโรคหวัด และโรคหลอดลมอักเสบติดต่อ ซึ่งสามารถแพร่ระบาดไปมาระหว่างกันในน้องหมาได้ (บ้านไหนที่เลี้ยงน้องหมาร่วมกันหลายตัว ต้องระวังการแพร่ระบาดของโรคเหล่านี้ในหน้าฝนให้ดีเลยล่ะ) โดยอาการที่สามารถสังเกตได้มีตั้งแต่อาการไอแบบมีเสมหะ มีน้ำมูกไหล ไปจนถึงมีไข้สูง ซึม เบื่ออาหาร ในรายที่รุนแรงอาจถึงขั้นเกิดภาวะปอดบวม และเสียชีวิตได้เลยทีเดียว แต่ไม่ต้องกังวลไป ! เพราะโรคหวัดสามารถป้องกันได้เพียงการพาน้องหมาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคเป็นประจำทุกปี (วัคซีนรวมที่น้องหมาฉีดจะช่วยให้น้องหมามีภูมิคุ้มกันต่อโรคหวัดและหลอดลมอักเสบติดต่อได้นั่นเอง) ดังนั้นหน้าฝนแบบนี้อย่าลืมเปิดพัดลมระบายอากาศ เพื่อไม่ปล่อยให้ห้องอับชื้น และพาน้องหมาไปฉีดวัคซีนกันด้วยนะ
✅ ผสาน 3 พลัง อีกขั้นของการปกป้อง อย่าปล่อยให้ปรสิตรุกราน
ฤดูฝนได้ชื่อว่าเป็นฤดูที่มีเห็บ และหมัดแพร่ระบาดมากอีกหนึ่งฤดู เพราะความชื้น และอุณหภูมิที่เหมาะสมส่งผลให้เห็บ และหมัดเกิดการเพิ่มจำนวนได้มากขึ้น โดยการโดนเห็บกัดเป็นสาเหตุของการเกิดโรคพยาธิเม็ดเลือด และภาวะโลหิตจาง การโดนหมัดกัดเป็นสาเหตุของการเกิดภาวะภูมิแพ้ และโรคผิวหนัง ซึ่งโรคเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ เพียงการโดนกัดแค่ครั้งเดียว แถมยังมีอันตรายร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ไม่ว่าจะฤดูฝน หรือฤดูไหน ๆ ปรสิตร้ายอย่างพยาธิหนอนหัวใจ ซึ่งมียุงเป็นพาหะ และพยาธิในระบบทางเดินอาหาร เช่น พยาธิตัวกลม และพยาธิปากขอ ยังคงแอบซ่อน และคอยลอบทำร้ายสุขภาพน้องหมาอยู่ทุกเมื่อ ดังนั้นหน้าฝนแบบนี้อย่าลืมเสริมเกราะป้องกันปรสิตทั้ง 3 ชั้นให้น้องหมาอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกเดือน เพียงเท่านี้ก็หมดห่วงเรื่องปรสิตตัวร้ายที่คอยรุกรานน้องหมาได้แล้วล่ะ
ไม่ว่าจะฤดูฝน หรือฤดูไหน การใส่ใจดูแลสุขภาพน้องหมาก็เป็นเรื่องสำคัญเสมอ 🧡
🐶 ดูแลน้องหมาด้วยโปรแกรมป้องกันปรสิต ปลอดภัยทั้งภายนอกและภายใน สำหรับสุนัขที่สัตวแพทย์แนะนำเป็นประจำทุกเดือน
🎯 Simple Protection Triple Action ผสาน 3 พลัง อีกขั้นของการปกป้อง ดูแลง่าย ปลอดภัย อุ่นใจยกบ้าน
ดูแลป้องกันปรสิตร้ายทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ ปรสิตภายนอก (หมัด เห็บ ไร) พยาธิหนอนหัวใจ-พยาธิปอด และพยาธิทางเดินอาหาร
#SimpleProtection #TripleAction #ผสาน3พลัง #อีกขั้นของการปกป้อง #ดูแลง่าย #ปลอดภัย #อุ่นใจยกบ้าน - 

น้องหมาวัยเด็กควรเริ่มป้องกันปรสิตตั้งแต่อายุเท่าไร ?
🤔 หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสงสัยว่า “น้องหมาวัยเด็กควรเริ่มป้องกันปรสิตตั้งแต่อายุเท่าไร ?” วันนี้เรามีคำตอบ ! 🤩 ✅ เริ่มทันทีตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ : ปรสิตร้ายต้องเริ่มป้องกันตั้งแต่แม่น้องหมากำลังตั้งท้อง เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่แม่น้องหมามีความอ่อนแอ และเสี่ยงต่อการติดปรสิตเป็นอย่างมาก แถมปรสิตกลุ่มพยาธิภายในบางชนิด เช่น พยาธิตัวกลม และพยาธิปากขอยังสามารถติดต่อจากแม่ไปสู่ลูกได้อีกด้วย ทั้งนี้โปรแกรมปกป้องที่เลือกใช้ควรเลือกชนิดที่สามารถใช้ได้ในแม่สุนัขตั้งท้อง เช่น ยาหยดหลังที่ช่วยปกป้องน้องหมาจากหมัด เห็บ ไร และพยาธิหนอนหัวใจ โดยควรให้ควบคู่ไปกับการถ่ายพยาธิเป็นประจำ เพื่อเสริมการปกป้องน้องหมาให้ครอบคลุมถึงพยาธิภายในด้วยนั่นเองตั้งแต่น้องหมาลืมตาดูโลก : ดูแลรักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อมที่น้องหมาอยู่อาศัยเพื่อลดโอกาสการได้รับไข่พยาธิ การโดนเห็บ หมัดรุกราน หรือการโดนยุงซึ่งเป็นพาหะของพยาธิหนอนหัวใจกัด เพราะสิ่งแวดล้อมที่สะอาด และปลอดภัยย่อมทำให้น้องหมาปลอดภัยจากปรสิตร้ายที่อันตรายถึงชีวิตมากยิ่งขึ้น ✅ เริ่มเมื่อน้องหมาอายุ 3 สัปดาห์เมื่อน้องหมาอายุครบ 3 สัปดาห์ สามารถพาน้องหมาไปรับโปรแกรมการถ่ายพยาธิจากสัตวแพทย์ใกล้บ้าน พร้อมรับคำแนะนำในการดูแลอย่างเหมาะสม โดยหลังจากเริ่มการถ่ายพยาธิครั้งแรกแล้วจึงพาน้องหมามารับการถ่ายพยาธิซ้ำอีกทุก ๆ 2 สัปดาห์ จนน้องหมาอายุครบ 8-10 สัปดาห์ หลังจากนั้นควรพาน้องหมามาถ่ายพยาธิเป็นประจำทุก 3-4 เดือน (ความถี่ที่สัตวแพทย์แนะนำขึ้นอยู่กับความเสี่ยงในการได้รับพยาธิจากสิ่งแวดล้อมของน้องหมาตัวนั้น ๆ) พร้อมทั้งเสริมเกราะป้องกันพยาธิภายในให้กับน้องหมาเป็นประจำทุกเดือน เพื่อป้องกันการติดพยาธิในระบบทางเดินอาหารกลุ่มพยาธิตัวกลม และปากขอ…
🤔 หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสงสัยว่า “น้องหมาวัยเด็กควรเริ่มป้องกันปรสิตตั้งแต่อายุเท่าไร ?” วันนี้เรามีคำตอบ ! 🤩
✅ เริ่มทันที
ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ : ปรสิตร้ายต้องเริ่มป้องกันตั้งแต่แม่น้องหมากำลังตั้งท้อง เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่แม่น้องหมามีความอ่อนแอ และเสี่ยงต่อการติดปรสิตเป็นอย่างมาก แถมปรสิตกลุ่มพยาธิภายในบางชนิด เช่น พยาธิตัวกลม และพยาธิปากขอยังสามารถติดต่อจากแม่ไปสู่ลูกได้อีกด้วย ทั้งนี้โปรแกรมปกป้องที่เลือกใช้ควรเลือกชนิดที่สามารถใช้ได้ในแม่สุนัขตั้งท้อง เช่น ยาหยดหลังที่ช่วยปกป้องน้องหมาจากหมัด เห็บ ไร และพยาธิหนอนหัวใจ โดยควรให้ควบคู่ไปกับการถ่ายพยาธิเป็นประจำ เพื่อเสริมการปกป้องน้องหมาให้ครอบคลุมถึงพยาธิภายในด้วยนั่นเอง
ตั้งแต่น้องหมาลืมตาดูโลก : ดูแลรักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อมที่น้องหมาอยู่อาศัยเพื่อลดโอกาสการได้รับไข่พยาธิ การโดนเห็บ หมัดรุกราน หรือการโดนยุงซึ่งเป็นพาหะของพยาธิหนอนหัวใจกัด เพราะสิ่งแวดล้อมที่สะอาด และปลอดภัยย่อมทำให้น้องหมาปลอดภัยจากปรสิตร้ายที่อันตรายถึงชีวิตมากยิ่งขึ้น
✅ เริ่มเมื่อน้องหมาอายุ 3 สัปดาห์
เมื่อน้องหมาอายุครบ 3 สัปดาห์ สามารถพาน้องหมาไปรับโปรแกรมการถ่ายพยาธิจากสัตวแพทย์ใกล้บ้าน พร้อมรับคำแนะนำในการดูแลอย่างเหมาะสม โดยหลังจากเริ่มการถ่ายพยาธิครั้งแรกแล้วจึงพาน้องหมามารับการถ่ายพยาธิซ้ำอีกทุก ๆ 2 สัปดาห์ จนน้องหมาอายุครบ 8-10 สัปดาห์ หลังจากนั้นควรพาน้องหมามาถ่ายพยาธิเป็นประจำทุก 3-4 เดือน (ความถี่ที่สัตวแพทย์แนะนำขึ้นอยู่กับความเสี่ยงในการได้รับพยาธิจากสิ่งแวดล้อมของน้องหมาตัวนั้น ๆ) พร้อมทั้งเสริมเกราะป้องกันพยาธิภายในให้กับน้องหมาเป็นประจำทุกเดือน เพื่อป้องกันการติดพยาธิในระบบทางเดินอาหารกลุ่มพยาธิตัวกลม และปากขอ เพื่อลดโอกาสการสะสมของพยาธิภายในร่างกาย
✅ เริ่มเมื่อน้องหมาอายุ 8 สัปดาห์
เมื่อน้องหมาอายุครบ 8 สัปดาห์ อย่าลืม ผสาน 3 พลัง อีกขั้นของการปกป้องน้องหมาของคุณจากปรสิตร้ายที่อันตรายถึงชีวิตด้วย 𝗦imple Protection โปรแกรมปกป้องน้องหมาจากปรสิตที่สัตวแพทย์แนะนำเป็นประจำทุกเดือน
🛡 ชั้นที่ 1 ปกป้องน้องหมาจากพยาธิหนอนหัวใจ ปรสิตตัวร้ายที่มียุงเป็นพาหะ ต้นเหตุของการเกิดโรคพยาธิหนอนหัวใจ โรคร้ายที่ทำให้น้องหมาทุกข์ทรมานจนถึงขั้นเสียชีวิต
🛡 ชั้นที่ 2 ปกป้องน้องหมาจากปรสิตภายนอก ทั้งเห็บ และหมัด ตัวการสำคัญของการเกิดโรคผิวหนัง และพาหะของพยาธิเม็ดเลือด
🛡 ชั้นที่ 3 ปกป้องน้องหมาจากพยาธิในระบบทางเดินอาหาร ทั้งพยาธิตัวกลม และพยาธิปากขอ ภัยเงียบที่เป็นตัวการทำลายสุขภาพจากภายใน ทำให้ร่างกายน้องหมาอ่อนแอ และเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้
รักน้องหมาอย่าลืมดูแลสุขภาพ และป้องกันปรสิตให้น้อง ๆ อย่างต่อเนื่อง
🐶 ดูแลน้องหมาด้วยโปรแกรมป้องกันปรสิต ปลอดภัยทั้งภายนอกและภายใน สำหรับสุนัขที่สัตวแพทย์แนะนำเป็นประจำทุกเดือน
🎯 Simple Protection Triple Action ผสาน 3 พลัง อีกขั้นของการปกป้อง ดูแลง่าย ปลอดภัย อุ่นใจยกบ้าน
ดูแลป้องกันปรสิตร้ายทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ ปรสิตภายนอก (หมัด เห็บ ไร) พยาธิหนอนหัวใจ-พยาธิปอด และพยาธิทางเดินอาหาร
#SimpleProtection #TripleAction #ผสาน3พลัง #อีกขั้นของการปกป้อง #ดูแลง่าย #ปลอดภัย #อุ่นใจยกบ้าน - 

ไขข้อสงสัยปัญหาโลกแตกสำหรับคนเลี้ยงน้องหมา
“ปกป้องน้องหมาก็แล้ว ทำไมน้องหมายังมีเห็บ ?”แชร์ 3 เหตุผลยอดฮิตที่ทำให้การป้องกันเห็บในน้องหมาไม่มีประสิทธิภาพ พร้อมแนะนำเทคนิคการป้องกันอย่างถูกวิธีจากคำแนะนำของสัตวแพทย์ จะมีอะไรบ้างไปดูกัน ! ใช้โปรแกรมปกป้องที่ไม่ได้มาตรฐาน ยาเถื่อนสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้การปกป้องน้องหมาจากเห็บไม่มีประสิทธิภาพ คือการเลือกใช้โปรแกรมปกป้องที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเลือกใช้ยาเถื่อนที่ไม่ได้รับการแนะนำจากสัตวแพทย์ โดยยาเหล่านี้มักเป็นตัวยาที่ไม่ได้รับการทดสอบว่าสามารถออกฤทธิ์กำจัดเห็บซึ่งเป็นพาหะของพยาธิเม็ดเลือดได้มากน้อยเพียงใด ประสิทธิภาพจึงไม่คงที่ ยาบางกลุ่มอาจออกฤทธิ์ได้ไม่รุนแรงมากพอ บางกลุ่มอาจออกฤทธิ์รุนแรงมากเกินไป และมีผลข้างเคียงซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายน้องหมา นอกจากนี้ตัวยาเถื่อนเหล่านี้ยังพบว่ามักเป็นตัวยาที่อยู่ในกลุ่มของยาฆ่าแมลง ซึ่งส่งผลให้น้องหมาได้รับสารพิษผ่านการดูดซึม หรือเลีย โดยมักพบว่าออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ส่งผลให้เกิดอาการชัก และเป็นพิษต่ออวัยวะสำคัญส่วนอื่น ๆ ในร่างกายซึ่งรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว ใช้โปรแกรมปกป้องไม่สม่ำเสมอโปรแกรมปกป้องน้องหมาจากปรสิตร้ายที่สัตวแพทย์แนะนำได้รับการทดสอบว่าออกฤทธิ์ได้ดีที่สุดที่ระยะเวลา 1 เดือน คำแนะนำจึงแนะนำให้ทำการปกป้องเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกเดือน เดือนละ 1 ครั้ง หากเจ้าของเว้นช่วงการป้องกัน หรืองดการป้องกันเมื่อเห็นว่าน้องหมาไม่มีเห็บบนร่างกาย ระดับของยาในร่างกายของน้องหมาจะลดลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการปกป้องลดลงตามไปด้วย ดังนั้น หากอยากมั่นใจว่าน้องหมาจะปลอดภัยจากเห็บตลอดทุกช่วงเวลา อย่าลืมมอบการปกป้องอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำข้างฉลากเพื่อประสิทธิภาพการปกป้องที่ดีที่สุด ไม่ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมถึงแม้จะมอบการปกป้องด้วยโปรแกรมปกป้องที่ดีมากแค่ไหน แต่การทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันเห็บซึ่งเป็นพาหะของพยาธิเม็ดเลือด เพราะการทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมจะช่วยลดการสะสมของเห็บในธรรมชาติ ช่วยให้น้องหมาไม่ต้องเผชิญกับการโดนเห็บกัด ช่วยลดโอกาสในการเกิดพยาธิเม็ดเลือด ดังนั้นอย่าลืมทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมเป็นประจำโดยเฉพาะบริเวณที่น้องหมาอาศัยอยู่บ่อย ๆ เช่น ที่นอน หรือภายในบ้าน ด้วยล่ะ ถึงจะปกป้องน้องหมาจากเห็บตัวร้ายแล้ว แต่ถ้าป้องกันไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม น้องหมาก็ไม่อาจรอดพ้นจากเห็บไปได้ !อย่าลืมปกป้องน้องหมาอย่างถูกวิธีตั้งแต่วันนี้…
“ปกป้องน้องหมาก็แล้ว ทำไมน้องหมายังมีเห็บ ?”
แชร์ 3 เหตุผลยอดฮิตที่ทำให้การป้องกันเห็บในน้องหมาไม่มีประสิทธิภาพ พร้อมแนะนำเทคนิคการป้องกันอย่างถูกวิธีจากคำแนะนำของสัตวแพทย์ จะมีอะไรบ้างไปดูกัน !
ใช้โปรแกรมปกป้องที่ไม่ได้มาตรฐาน ยาเถื่อน
สาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้การปกป้องน้องหมาจากเห็บไม่มีประสิทธิภาพ คือการเลือกใช้โปรแกรมปกป้องที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเลือกใช้ยาเถื่อนที่ไม่ได้รับการแนะนำจากสัตวแพทย์ โดยยาเหล่านี้มักเป็นตัวยาที่ไม่ได้รับการทดสอบว่าสามารถออกฤทธิ์กำจัดเห็บซึ่งเป็นพาหะของพยาธิเม็ดเลือดได้มากน้อยเพียงใด ประสิทธิภาพจึงไม่คงที่ ยาบางกลุ่มอาจออกฤทธิ์ได้ไม่รุนแรงมากพอ บางกลุ่มอาจออกฤทธิ์รุนแรงมากเกินไป และมีผลข้างเคียงซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายน้องหมา นอกจากนี้ตัวยาเถื่อนเหล่านี้ยังพบว่ามักเป็นตัวยาที่อยู่ในกลุ่มของยาฆ่าแมลง ซึ่งส่งผลให้น้องหมาได้รับสารพิษผ่านการดูดซึม หรือเลีย โดยมักพบว่าออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ส่งผลให้เกิดอาการชัก และเป็นพิษต่ออวัยวะสำคัญส่วนอื่น ๆ ในร่างกายซึ่งรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว
ใช้โปรแกรมปกป้องไม่สม่ำเสมอ
โปรแกรมปกป้องน้องหมาจากปรสิตร้ายที่สัตวแพทย์แนะนำได้รับการทดสอบว่าออกฤทธิ์ได้ดีที่สุดที่ระยะเวลา 1 เดือน คำแนะนำจึงแนะนำให้ทำการปกป้องเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกเดือน เดือนละ 1 ครั้ง หากเจ้าของเว้นช่วงการป้องกัน หรืองดการป้องกันเมื่อเห็นว่าน้องหมาไม่มีเห็บบนร่างกาย ระดับของยาในร่างกายของน้องหมาจะลดลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการปกป้องลดลงตามไปด้วย ดังนั้น หากอยากมั่นใจว่าน้องหมาจะปลอดภัยจากเห็บตลอดทุกช่วงเวลา อย่าลืมมอบการปกป้องอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำข้างฉลากเพื่อประสิทธิภาพการปกป้องที่ดีที่สุด
ไม่ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อม
ถึงแม้จะมอบการปกป้องด้วยโปรแกรมปกป้องที่ดีมากแค่ไหน แต่การทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันเห็บซึ่งเป็นพาหะของพยาธิเม็ดเลือด เพราะการทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมจะช่วยลดการสะสมของเห็บในธรรมชาติ ช่วยให้น้องหมาไม่ต้องเผชิญกับการโดนเห็บกัด ช่วยลดโอกาสในการเกิดพยาธิเม็ดเลือด ดังนั้นอย่าลืมทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมเป็นประจำโดยเฉพาะบริเวณที่น้องหมาอาศัยอยู่บ่อย ๆ เช่น ที่นอน หรือภายในบ้าน ด้วยล่ะ
ถึงจะปกป้องน้องหมาจากเห็บตัวร้ายแล้ว แต่ถ้าป้องกันไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม น้องหมาก็ไม่อาจรอดพ้นจากเห็บไปได้ !
อย่าลืมปกป้องน้องหมาอย่างถูกวิธีตั้งแต่วันนี้
🐶 ดูแลน้องหมาด้วยโปรแกรมป้องกันปรสิต ปลอดภัยทั้งภายนอกและภายใน สำหรับสุนัขที่สัตวแพทย์แนะนำเป็นประจำทุกเดือน
🎯 Simple Protection Triple Action ผสาน 3 พลัง อีกขั้นของการปกป้อง ดูแลง่าย ปลอดภัย อุ่นใจยกบ้าน
ดูแลป้องกันปรสิตร้ายทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ ปรสิตภายนอก (หมัด เห็บ ไร) พยาธิหนอนหัวใจ-พยาธิปอด และพยาธิทางเดินอาหาร
#SimpleProtection #TripleAction #ผสาน3พลัง #อีกขั้นของการปกป้อง #ดูแลง่าย #ปลอดภัย #อุ่นใจยกบ้าน